ของล้ำค่าจากสมุดบันทึกประจำวันของการตระเวนทัวร์ในประเทศสวีเดน

 

- ตามลำดับเหตุการณ์ที่กลับด้านกัน

อย่างที่เราได้เขียนถึงเพื่อน ๆ ของเราที่เรามีอยู่ในรายชื่อในอีเมล์

อะไรคือพวกล็อบบี้ชายรักร่วมเพศ หรือ พวกมาเฟียที่เป็นชายรักร่วมเพศ?

วันพุธที่ 13 กันยายน ค.ศ. 2006

หลังจากประมาณหนึ่งสัปดาห์ของกิจกรรมตามปกติ และการขับขี่รถยนต์ผ่านทั่วประเทศสวีเดนที่สวยงาม, เหตุการณ์ก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง, ครั้งนี้เราได้ประสบกับสิ่งที่แตกต่างออกไป, แตกต่างเพราะว่าเราไม่มีโอกาสที่จะได้พบเห็นผู้กระทำความผิดแบบซึ่งหน้า พวกเรานั่งอยู่ในรถ เตรียมตัวที่จะออกจากปั๊มน้ำมันในเมือง Helsingborg ในทันใดนั้น กระจกข้างหลังรถของเราก็ถูกขว้างปาด้วยก้อนหิน ทำให้เกิดเสียงดัง พร้อมกระจกหลังรถแตกละเอียด หลังจากที่ตะลึงงงกันอยู่พักหนึ่ง กระผมได้หันไปมองผ่านช่องกระจกรถที่ถูกขว้างแตก และเห็นข้างหลังของชายคนหนึ่งกำลังวิ่งหนีไปอย่างเร็ว คนอื่น ๆ ที่อยู่ในปั๊มน้ำมันก็เห็นชายคนนี้เหมือนกัน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นรวดเร็วมาก และชายคนนี้ก็ได้วิ่งหายไป มันไม่ใช่ว่าเรากล้าหรือไม่กล้า ไล่จับไอ้คนบ้าที่ทำให้กระจกรถของเราแตก โดยการเสี่ยงชีวิตหรือเสี่ยงบาดเจ็บเพื่อไล่จับเขา แต่มันไม่มีประโยชน์

แต่ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ผมตัดสินใจที่ยกเลิกทัวร์นี้ ครั้งนี้มันเป็นก้อนหินขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลาง 6 นิ้ว ที่ขว้างใส่กระจกรถทางด้านหลังอย่างแรง มันกระเด้งไปโดนเบาะพนักที่พิงหัวตอนด้านหลังของเบาะ ดังนั้น ก้อนหินก้อนนี้ไม่สามารถข้ามมาถึงเบาะข้างหน้าที่เรานั่งอยู่ ครั้งนี้มันเป็นเพียงแค่ก้อนหิน แต่ครั้งหน้า (ใครจะรู้) มันอาจจะเป็นกระสุนปืนก็ได้ ดังนั้นไม่ว่ากระจกรถของเรา หรือเสื้อเกราะป้องกันกระสุนปืน ที่เราสวมใส่อยู่จะสามารถหยุดลูกกระสุนปืนได้ (เสื้อเกราะกันกระสุนปืนเราได้จากร้าน “Militarlagret” ในเมือง Landskrona ก่อนที่จะเริ่มทัวร์นี้และเราได้สวมใส่มันไว้ตลอดเวลา หลังจากที่ถูกฝูงชนโจมตีทำร้ายเราในเมือง Umea; ดูเหตุการณ์วันที่ 29 สิงหาคม ข้างล่างนี้) และเพราะว่าผมเป็นผู้ปกป้องคุ้มครองความปลอดภัย ทางร่างกายให้กับภรรยาผม ผมได้ตัดสินใจให้ยกเลิกทัวร์นี้ โดยที่ภรรยายังเต็มใจที่จะทำงานต่อไป เราอดคิดถึง 6 อำเภอที่เราได้ท่องเที่ยวผ่านมาในเมือง Skane ไม่ได้ และหลังจากเหตุการณ์ในเมือง Linkoping (ให้ดู 5 กันยายน) พวกเราได้สังเกตุเห็นรถตำรวจที่คอยมาให้การดูแล อยู่ข้างหลังเรา เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันนี้ และในเมือง Skovde เราก็ได้รับการยืนยันอีกว่า ตำรวจจะรักษาความปลอดภัยพวกเราอีกเหมือนกัน และพวกเราต่างก็ได้ขอบคุณตำรวจที่มาคอยดูแลเรา แต่พวกตำรวจก็ทำได้แค่ที่เขาทำได้                                                                                          

อย่างไรก็ดี, ปัญหาที่ยังคงตามมาก็คือพวกเรากำลังประสบกับพวกล็อบบี้ชายรักร่วมเพศ (homolobby) ที่ก้าวร้าวหรืออาจจะเป็นคล้ายกับพวกมาเฟียชายรักร่วมเพศ (homolobby) ในประเทศสวีเดน? คนที่เป็นประธานของเว็บไซต์ RFSL ชื่อ Mr. Soren Andersson ที่ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ประจำวันชื่อ Dagen ว่า “มันแย่มากที่คน ๆ หนึ่ง พกความโกรธและเกลียดในตัวเขามากมายเช่นนี้” (เขาหมายถึงผม) และเขายังให้สัมภาษณ์ว่า RFSL ไม่เกี่ยวข้องกับการโจมตีทำร้ายพวกเราครั้งนี้ แต่แม้กระนั้นเขาพูดว่า “เขาเข้าใจถึงการกระทำ”; ซึ่งเป็นคำกล่าวที่ทำให้การปฏิเสธว่า เขาไม่เกี่ยวกับการใช้กำลังรุนแรง ได้อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด (เป็นสิ่งที่ไม่น่ายกย่อง) ผมได้เห็นพร้องด้วยว่า RFSL ไม่สามารถที่จะรับผิดชอบกับการกระทำ ที่ผิดกฎหมายโดยแค่คนสองสามคน, อันนี้ก็เหมือนกันกับคนทุก ๆ คนที่ไม่ชอบ RFSL, ที่ไม่อาจจะรับผิดชอบต่อการกระทำที่ผิดกฎหมายต่อพวกผู้ชายรักร่วมเพศ แต่มันเป็นความจำเป็นและสำคัญ ที่คนที่เป็นผู้นำในทุก ๆ ด้านยืนหยัดต่อการยุยง, ยุแหย่ใช้ความรุนแรง และใช้การข่มขู่คุกคาม ผมเห็นด้วยว่าไม่มีองค์กรใด ที่สามารถบังคับการกระทำของสมาชิกทั้งหมดในทุกเวลาได้ แต่เหตุการณ์บางอย่างสามารถที่จะบังคับ และมีอิทธิพลได้ ยกตัวอย่างเช่น มันเป็นเรื่องน่าเชื่อและมีเหตุผลให้เชื่อว่า RFSL มีอิทธิพลต่อการเดินพาเหรดของพวกเกย์ที่เรียกว่า “เทศกาลเพื่อความภาคภูมิ” ในเมืองหลวงสต๊อกโฮม (Pride Festival) มันเป็นไปได้อย่างไรว่า เขาได้อนุญาตให้พวกที่เข้าร่วมพาเหรดของพวกเกย์ที่จัดขึ้น อย่างสิ้นเปลืองเอิกเกริก ใช้ลูกดอกปาไปที่รูปของคนที่ “กลัวพวกเกย์” (Homophobes) อย่างเช่นสันตปาปา (Pope) Alf Svensson และ Ulf Ekman? ถ้านี่ไม่ใช่การยุยง; ปลุกปั่นแล้วเขาเรียกว่าอะไร? สันตะปาปา (Pope) มีคนคอยรักษาความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลาแล้ว คนอื่น ๆ จะรู้สึกอย่างไร ?

บางสิ่งบางอย่างที่ Mr. Andersson และ RFSL ต้องเข้าใจก็คือ ในสังคมที่เสรีและเปิดกว้าง ไม่มีทางที่เขาจะปกปิดข่าวสาร ไม่ให้ผู้ปกครองได้รับรู้เกี่ยวกับ: 1. ผู้ปกครองจะป้องกันการเป็นคนรักร่วมเพศในบุตร - หลานของตนในอนาคตได้อย่างไร, ถ้าต้องการ? 2. ที่ว่าด้วยการเป็นคนรักร่วมเพศนั้น ไม่ใช่ถ่ายทอดกันได้ในสายเลือดตามธรรมชาติ 3. การพรรณนาเกี่ยวกับวิถีชีวิตของพวกชายรักร่วมเพศ ที่ให้ไว้บนเว็บไซต์ของ RFSL รวมทั้งสถิติและข่าวสารที่น่านับถือ ผู้ปกครองในทางเดียวกันสามารถที่จะ ตัดสินใจได้อย่างถูกต้องเกี่ยวกับ การเลือกทัศนะคติทางเพศที่ดีกว่า สำหรับอนาคตของบุตร - หลาน

เราอยากที่จะเล่าให้ฟังว่า เราพยายามที่จะซื้อโฆษณาในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ให้กับเว็บไซต์ของเราในเมืองต่าง ๆ รวมแล้ว 42 ฉบับ, 28 ฉบับได้ตอบตกลงรับโฆษณาให้กับเรา และ 14 ฉบับไม่รับโฆษณาให้เรา แยกออกเป็นอัตรา 2:1 พวกเราค่อนข้างจะแปลกใจกับ อัตราสูงที่ยอมให้เราลงโฆษณา สงสัยว่าเราไม่เคยลงโฆษณาใน 3 เมืองใหญ่ เพราะเราคิดว่าผู้คนในชนบทไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับ “กระแสการเมืองที่ว่าถูกต้องในเวลานี้” เท่ากับคนที่อยู่เมืองใหญ่ ๆ ที่ได้รับข่าวสารอยู่เสมอ อัตราส่วนที่ยอมให้เราลงโฆษณาเริ่มขึ้นด้วยดีเป็นอัตราที่สูงและค่อย ๆ ต่ำลงเมื่อใกล้จบ มันอาจจะเป็นเพราะว่าพวกล็อบบี้ชายรักร่วมเพศวิ่งเต้น และเพิ่มแรงกดดันให้กับหนังสือพิมพ์ ไม่ให้รับโฆษณาของเรา เป็นไปอย่างที่คาดเดาเอาไว้แล้วว่า หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งชื่อ Nya Wermlandstidingen ได้ลุกขึ้นมาปกป้องท่าทีของตนเอง ที่อนุญาตให้แสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรี ที่เขียนว่า “เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น” หนังสือพิมพ์ฉบับอื่นยอมจำนนต่อแรงกดดัน หนังสือพิมพ์สองฉบับได้ยกเลิกการโฆษณา หลังจากได้ลงข้อความของเราอยู่ 2 ครั้ง เพราะได้รับการร้องเรียน

โดยการสรุปแล้วพวกเราต้องการที่จะขอบคุณท่านทุก ๆ คน ที่วิเศษสุดที่เราได้พบปะ ขณะที่เราตระเวนทัวร์อยู่ในประเทศสวีเดน สำหรับผู้ที่สนับสนุนพวกเรา และผู้ที่มีความสงสัยเคลือบแคลงในสิ่งที่เราได้พูด และได้กระทำ ทุกคนที่เราได้พบปะเจอะเจอด้วยตนเอง, อีเมลล์ หรือสนทนาทางโทรศัพท์ เราไม่เคยมีอะไรแอบแฝงเลย นอกจากความปรารถนาดีจากใจของพวกเรา แม้กระทั่งรวมไปถึงพวกที่เดินทางผิด

วันอังคารที่ 5 กันยายน ค.ศ. 2006 - ถูกโจมตีทำร้ายอีกครั้ง

วันนี้เราได้มาถึงเมือง Linkoping ประมาณเที่ยงวัน ที่นี่เป็นสถานที่ผลิตเครื่องบินรบจู่โจมให้กับกองทัพอากาศของประเทศสวีเดน สวีเดนมีประชากร 9 ล้านคน เป็นไม่กี่ประเทศที่ผลิตเครื่องบินเพื่อใช้ในการรบหรือการทหาร ที่นี่พวกเราได้พบกับเรื่องเดิม พวกเราเพิ่งจะจอดรถเพื่อที่จะ หาอะไรกินในร้านอาหารจานด่วน แล้วก็มีคนจำนวนหนึ่งตามรังควานพวกเรา ครั้งนี้พวกเขาตามเราเข้าไปในร้านอาหารแหกปากตะโกนเสียงดัง และใช้คำวาจาที่หยาบคายต่อผมและภรรยาผม และในขณะเดียวกัน อีกพวกหนึ่งก็ทุบรถของเราที่จอดอยู่นอกร้านเพื่อให้ทุกคนได้เห็น ลูกค้าในร้านได้กลับมาอีก คราวนี้มีจุดประสงค์ที่จะทำร้ายพวกเรา ลูกค้าคนหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ได้โทร.แจ้งตำรวจ เมื่อตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุพวกที่มีเจตนาร้ายก็ได้หายไปหมดแล้ว ตำรวจได้สอบถามคนในที่เกิดเหตุแล้วลงความเห็นว่า มันเป็นการข่มขู่ที่ผิดกฎหมายแล้วก็เขียนบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และพวกเราก็ต้องร่วมมือกับเจ้าหน้าที่โดยไม่มีทางเลือก พวกเราสมควรที่จะให้ความร่วมมือกับทางการเพื่อที่จะ รักษาไว้ซึ่งระเบียบและกฎหายและเราก็ต้องขอขอบคุณชายผู้หนึ่งที่โทรศัพท์แจ้งตำรวจ แต่เราไม่ต้องการที่จะดำเนินคดีกับพวกที่ออกมาข่มขู่เรา และพวกที่ทุบรถของเรา คนเหล่านี้ที่จริงแล้วสมควรที่จะได้รับความรัก ความเมตตา และพวกเราหวังว่าเราสามารถที่จะทำอะไรสักอย่างเพื่อที่จะช่วยเหลือพวกเขาได้

เมื่อใกล้จะจบการตระเวนทัวร์ของพวกเราในประเทศสวีเดน เราได้รับอีเมล์ดังต่อไปนี้จากเมือง Linkoping:

- - - - - - - - - - - - ข้อความต้นฉบับ - - - - - - - - - - - -

จาก “kompis” < antifa@linkoping >

ถึง: < xxxxxxxxxxxxxx >

ส่งเมื่อ: วันศุกร์ที่ 15 กันยายน ค.ศ. 2006 เวลา 02.55 น.

เรื่อง: อีเมล์ถึง Amoso - vi ska doda er

ข้อความที่ถูกแปลแล้วเขียนว่า:

“เขียนถึงเพื่อน”

ตราบเท่าที่คุณกำลังเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อของคุณ พวกเราต้องการที่จะดูว่าคุณจะไม่มาปรากฏตัวที่นี่ และถ้าคุณมาที่นี่อีก ความตายเท่านั้นเป็นสิ่งที่คุณจะถามหาได้ตามด้วยสิ่งที่น่ารังเกียจของพวกคริสเตียนที่เชื่อถือลัทธิดั้งเดิมของศาสนา.......... หวังว่าเราคงจะได้พบกันในเร็วๆนี้ /// AFA linkoping

จุดประสงค์หลักของการมาท่องเที่ยวทัวร์ครั้งนี้เพื่อที่จะ เข้าถึงท่านผู้ปกครองทุกคน และเรียนให้ทราบว่า เขาจะทำอะไรได้มากที่จะปกป้องบุตร - หลาน โดยเฉพาะเด็กผู้ชาย เพื่อที่จะพัฒนาการทางเพศตามแบบฉบับของผู้ชาย เพื่อหลีกเลี่ยงการมีชีวิตแบบพวกชายรักร่วมเพศ ดูเหมือนว่าคนจำนวนน้อยที่ให้ความสนใจต่อเด็กและเยาวชนตัวเล็ก ๆ ของเรา พวกชายรักร่วมเพศพร้อมด้วยพวกล็อบบี้ที่มีประสิทธิภาพ ได้สั่งสมกำลังไว้มากมาย ในการดำเนินการของเขา ไม่ว่าจะเป็นทางสื่อสารมวลชน, การเมือง, การสนับสนุนทางการเงิน และแม้กระทั่งการข่มขู่กรรโชก นี่เป็นอาวุธที่สำคัญอย่างยิ่ง แต่เด็กและเยาวชนในความดูแลของเราทั้งในปัจจุบันและอนาคตที่มีผู้ใหญ่ไม่กี่คนที่ยืนเคียงข้าง และคอยช่วยเหลือเพื่อหลีกเลี่ยงการมีความสับสนทางด้านเลือกเพศ ไม่มีครั้งใดที่จะทำให้แจ้งชัดกว่านี้เมื่อรัฐสภาของสวีเดน (Risksdag) ในวันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 2002 ได้ลงมติกันอย่างเป็นเอกฉันท์ท่วมท้น ที่ให้พวกชายรักร่วมเพศสามารถรับบุตรบุญธรรม (ดูเว็บไซต์เรื่องที่ถูกปกปิดเรื่องที่ 2 วรรค 4; การเดินพาเหรดของพวกเกย์ที่น่าละอาย (The Parade of Shame)

อย่างไรก็ดี, หลังจากที่เราได้พูดคุยกับตำรวจ พวกเราก็สามารถที่แจกใบปลิวให้กับผู้ปกครอง 3 ท่านที่สนใจ และรอคอยอย่างอดทน สิ่งที่ทำให้เรายุ่งยากใจก็คือ เราไม่รู้ว่ามีผู้ปกครองจำนวนมากเท่าใด ที่กลัวที่จะมาฟังพวกเรา หรือไม่ต้องการมาเพราะกลัวว่าจะเกิดเรื่อง ท้ายที่สุดก่อนที่เราจะออกจากที่นั่น ตำรวจผู้ใจดีบอกให้เราเอา “ผ้าเทป” ปิดแผลรถที่ถูกทุบเพื่อที่จะ ขับขี่ได้ต่อไปบนถนนอย่างถูกกฎหมาย

ก่อนที่พวกเราจะมาถึงเมือง Linkoping นั้น เมืองนี้ได้ประสบกับการทะเลาะวิวาทกันระหว่างพวกต่อต้านนาซีและพวกเกย์ ในระหว่างการเดินพาเหรดเพื่อความรัก จัดโดยพวกชายรักร่วมเพศ ผู้เข้าร่วมการชุมนุมทั้งสองฝ่าย ถูกตำรวจจับแล้ว ถูกปล่อยตัวในเวลาต่อมา คนต่างชาติที่ถูกเชื้อเชิญมาจากประเทศอื่น ให้มาร่วมเกย์พาเหรด โดยการชักจูงของพวกล็อบบี้เกย์ ไม่ได้มาร่วมในงานนี้ ทำให้ RFSL กล่าวอย่างผิดหวัง สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ก็คล้ายคลึงกับแนวความคิดในประเทศอเมริกาที่ พวกล็อบบี้ของเกย์ต้องการที่จะแสดงตัวเองให้เป็นหุ้นส่วนเพื่อ เข้าร่วมกันองค์กรผู้เรียกร้องสิทธิมนุษยชนของคนชาวผิวดำ แต่ถูกปฏิเสธและไม่ให้การต้อนรับ

วันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน ค.ศ. 2006 - ถูกทำร้ายอีกโดยพวกล็อบบี้ของเกย์

วันนี้พวกเราได้มาเยี่ยมพระราชวังในกรุงสต๊อกโฮม ประมาณเที่ยงวัน ได้มีพิธีการเปลี่ยนยามของมหาดเล็กหลวงในวัง ภรรยาผมสังเกตเห็นทันทีว่าเราถูกตามโดยชายหนุ่มคนหนึ่ง หลังจากที่เขาโทรศัพท์หาเพื่อนอยู่ชั่วครู่หนึ่งเขาก็สามารถที่จะรวมกลุ่มกันได้ 3 คน ที่มีเจตนาร้ายแล้วได้เดินตามเราไปทุกที่ภายในพระราชวัง พวกเขาตามเราไปร้านขายของชำร่วย, ตามเราไปที่ต่าง ๆ ฯลฯ และเราไม่รู้จะไล่เขาไปได้อย่างไร พวกเขาจะเดินตามหลังเราแค่สองสามก้าว หนึ่งในจำนวนนั้นใส่เสื้อยืดที่มีอักษรสีแดงตัวใหญ่บนหน้าอกที่เขียนว่า “ต้องกล้าที่จะเข้าร่วมกับการกระทำของการรักร่วมเพศ” (ภาษาสวีเดน Vaga Boga) เราไม่สามารถที่จะไล่เขาไปได้ ผมรู้สึกถึงลางร้ายว่ากำลังอยู่ในความเดือดร้อน ตราบเท่าที่เรายังปะปนกับฝูงชนเราก็ยังปลอดภัย แต่รถของเราจอดอยู่ที่เปลี่ยว ที่ถัดไปจากพระราชวัง ดังนั้นกระผมได้เรียกเจ้าหน้าที่ยามให้มาคุ้มครองเรา เพราะเราถูกพวกชายหนุ่มนี้ล้อมเอาไว้ และขอให้เขาช่วยส่งคนมาช่วยเพื่อที่จะ ไปส่งเราที่รถอย่างปลอดภัย ยามได้แนะนำให้เราไปที่อีกแห่งหนึ่ง เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ยามอยู่ที่นั่น เราก็ได้เดินกลับไปหาเจ้าหน้าที่ยามคนแรก แต่พวกเกย์ที่เจตนาร้ายก็ยังคงเดินตามเรามาอีก และยามคนนั้นก็พูดว่า “ผมรู้ครับ แต่ผมทำอะไรไม่ได้” ดังนั้นเมื่อนักท่องเที่ยวทุกคนได้ชมการ “เปลี่ยนยามของมหาดเล็กหลวง” แล้วได้ทยอยไปที่จอดรถ พวกเราได้ฉวยโอกาสตามไปแล้วรีบเปิดประตูเข้าไปในรถ เราสังหรณ์ตั้งแต่แรกว่าพวกเขาจะต้องทำการทุบรถของเรา แล้วทำลายข้าวของ แต่ครั้งนี้พวกเขาไม่สามารถที่จะทำลายใบปลิวของเรา (เพราะว่าภรรยาผมได้ใช้โซ่คล้องกล่องใส่ใบปลิวไว้กับตัวถังรถ) อย่างไรก็ดี พวกเขาได้ฉีกทำลายป้ายอันหนึ่งของเราออกไป

ขณะเดินทางกลับไปยังโรงแรมที่พัก ผมบอกกับภรรยาว่าผมไม่ต้องการที่จะ ให้เธอต้องมาประสบกับเรื่องราวเหล่านี้ และผมได้แนะนำว่าเราไม่ควรไปตามสถานที่ต่าง ๆ ที่เราได้ประกาศไว้ล่วงหน้า เพราะเราอาจจะถูกทำร้ายได้ง่ายจากพวกล็อบบี้ของเกย์ แต่เธอก็ได้ตอบว่า ถ้าเราเปลี่ยนเลิกล้มแผนการตอนนี้ ก็เท่ากับว่ายินยอมกับการขู่ข่มเหงของพวกล็อบบี้ของพวกเกย์ และนี่ก็เท่ากับการยืนชัยชนะให้กับพวกเขาโดยสิ้นเชิง และนั่นก็ได้เกิดขึ้นกับคนจำนวนมาก ที่เกรงกลัวต่อการถูกทำร้าย บางคนก็ไม่ได้โดนทำร้ายร่างกายหรือถูกข่มขู่กรรโชกอย่างพวกเรา แต่เขาจะใช้การเรียกชื่อว่าอย่างเช่น ไอ้พวกกลัวการรักร่วมเพศ ไอ้พวกนับถือลัทธิเผด็จการ ฯลฯ หรือพยายามที่จะทำลายธุรกิจ หรืออาชีพของคนบางคน ดังนั้นภรรยาผมต้องการที่จะ ดำเนินตามแผนการต่อไป เธอนี่กล้าจริง เราในบางครั้งรู้สึกว่าเราเป็นคนเดียวในสวีเดน ที่ยืนหยัดต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของบุตร - หลาน ทั้งในปัจจุบันและอนาคตที่พยายามปกป้องเขาเหล่านั้น ไม่ให้ตกไปเป็นเหยื่อของพวกชายรักร่วมเพศ พวกเด็ก และเยาวชนเหล่านี้ไม่มีคนคอยช่วยเหลือ พวกล็อบบี้ของเกย์ในทางกลับกัน ได้มีเครื่องมือที่สำคัญมาก ทั้งทางสื่อสารมวลชนและในทางการเมือง พวกเราได้ตระหนักดีว่าความพยายามพวกเรา ซึ่งเป็นตัวแทนของเด็กและเยาวชนถูกมองโดยฝ่ายตรงข้าม ว่าเป็นการกระทบกระเทือน และเป็นปฏิปักษ์ต่อการสรรหาสมาชิกรุ่นใหม่ เพื่อที่จะเป็นสถิติที่สืบทอดกันต่อไป ในแต่ละปีจะมีเด็กผู้ชายชาวสวีเดน ที่อยู่ในสภาพของการสับสนต่อการเลือกเพศตนเอง - ยอมรับวิถีชีวิตของเกย์

วันพฤหัสบดีที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 2006 - ผิดหวัง (ประมาณนั้น)

คืนนี้เราได้เยี่ยมเมือง Eskilstuna ในตอนภาคกลางของสวีเดน ตอนที่เรากำลังกินอาหารมื้อเย็นอยู่ มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินตรงมาหาเรา แล้วขอใบปลิวจากเรา เราให้เขาตามเรามาที่จอดรถข้าง ๆ ถัดไป แล้วเขาก็ตามมา ตอนที่ผมออกมาจากรถแล้วขอจับมือกับเขาแต่เขาปฏิเสธ เขาได้ด่าคำหยาบคายทั้งหลายให้ผมแทนการจับมือ แล้วบอกกับผมว่าเขาไม่ได้สนใจกับใบปลิวของผมเลย ในขณะนั้นเอง เด็กหนุ่มอีกพวกหนึ่งโผล่มาจากไหนไม่รู้แล้วตรงเข้ามาหาพวกเรา พวกเราไม่ต้องการที่จะเกิดเรื่องอีกแบบที่เจอมาแล้วในเมือง Umea เราก็ได้กล่าวคำอำลาพวกเขาอย่างสุภาพแล้วก็ขับรถออกไปเลย ตอนที่เราได้กลับถึงโรงแรมในเมือง Strangnas ในคืนนั้น เราได้รับอีเมล์จากชายคนหนึ่งเขามาจากเมือง Hallstahammar เพื่อเดินทางไป Eskilstuna เพื่อขอหนังสือ,ใบปลิว, สิ่งพิมพ์จากเรา แต่น่าเสียดายที่เราได้จากมาก่อนที่เขาจะมีโอกาสได้พบปะกับเรา นี่เป็นสิ่งที่เราเสียใจอย่างลึกซึ้งและตอนนี้เองเรารู้ว่าจะต้องกล้ามากขึ้น เพื่อที่จะสามารถเข้าถึงผู้คนที่เราต้องการที่จะ เข้าถึง (ผู้ปกครอง) ผู้ชายคนนี้ถามว่าเว็บไซต์ของเรา จะอยู่อีกนานเท่าไร และคล่องตัวอีกนานไหม เพราะจะถูกแปลเป็นภาษาอื่น ๆ อีก ผมได้ตอบกลับไปว่า: ตลอดไป! เขาบอกว่าพวกที่เจตนาร้ายในเมือง Eskilstuna นั้นเป็นพวก SSU ที่พยายามแจกใบปลิวกับเขา เขาได้พูดว่า พวกเขาเหล่านั้นที่เจตนาร้ายพูดไม่ดีกับคุณเลย” และเขาก็เข้าใจถึงปฏิกิริยาของเรา

วันอังคารที่ 29 สิงหาคม ค.ศ. 2006 ถูกทำร้ายโดยพวกล็อบบี้ชายรักร่วมเพศ

ถึงแม้ว่าเราต้องการให้ข่าวสารของเราจะ ถูกเผยแพร่ไปยังผู้ปกครองชาวสวีเดน ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของเรา แต่ปรากฏว่าพวกล็อบบี้ชายรักร่วมเพศที่เป็นตัวแทนของ RFSL ได้รวมกำลังพลที่จะก่อกวนการทำกิจกรรมของเรา พวกเรามีความสงสัยว่าเป็นพวกเขา เพราะเราตีแผ่ความเลวทรามที่เกี่ยวกับ โลกีย์ในเว็บไซต์ของพวกเขา และการแนะนำให้คนในสวีเดน ใช้ยาเสพติดที่ผิดกฎหมาย

เมื่อวานนี้ (วันที่ 28 สิงหาคม) เราไปเยี่ยมเมือง Umea ในตอนเหนือของสวีเดน ผมไปรับภรรยาผมตอนเช้าที่สนามบิน Umea เธอเพิ่งเดินทางกลับมาเพื่อที่จะ มาร่วมงานกับผมหลังจากกลับไปรัฐ California เพื่อไปดูแลหลาน ๆ ตอนที่กำลังขับรถไปโรงแรม ผมได้บอกภรรยาว่าผมคาดหวังว่าจะ ได้พักผ่อนในขณะขับรถอีกสองสามวันข้างหน้า ผมไม่รู้เลยว่าอะไรรอคอยผมอยู่ในคืนนั้น ตอนที่เราขับรถเข้าไปในที่พักจอดรถของร้าน McDonalds เราได้สังเกตเห็นฝูงคนจำนวนมากรวมกันอยู่ จากประสบการณ์ของเราที่ผ่านมา เรารู้ทันทีว่าพวกที่มารวมตัวกันนั้น ไม่ใช่มีแต่คนที่เป็นผู้ปกครอง แต่เป็นพวกที่มาเพื่อ คอยขัดจังหวะรบกวนเราไม่ให้แจกจ่ายสิ่งพิมพ์หรือใบปลิว ให้กับผู้ปกครองที่สนใจ แต่เราก็ไม่ได้คาดเดาไว้ล่วงหน้าถึงความชั่วร้าย และเต็มได้ด้วยความเกลียดชังของผู้มีเจตนาไม่ดีพวกนี้ หลังจากที่เราได้กินข้าวมื้อเย็นเสร็จ เราก็ได้ตามไปยังกลุ่มคนประมาณ 30 คน ว่าใครบ้างที่เป็นผู้ปกครอง มี 4 คน ที่บอกว่าเป็นผู้ปกครองและต้องการสิ่งพิมพ์, ใบปลิวจากเรา และเราก็ได้ส่งให้เขาอย่างเต็มใจ ต่อมาเมื่อผมกำลังจะขึ้นรถ พวกที่เหลือนี้ (เป็นเกย์ และผู้รณรงค์ของพวกเกย์) มารุมล้อมไม่ให้กระผมเข้าไปในรถ ผมต้องต่อสู้เพื่อที่จะเข้าไปในรถ แต่แผนการของพวกนี้คือว่าพวกหนึ่งพยายามไม่ให้เราเข้าไปในรถ อีกพวกหนึ่งไปที่หลังรถเปิดประตุหลังแล้วยกกล่องที่บรรจุใบปลิว, สิ่งพิมพ์ และ DVD แล้วโยนลงไปที่พื้นแล้วใช้เท้ากระทืบอย่างโกรธแค้น พวกเราทำอะไรไม่ได้ นอกจากยืนดูเฉย ๆ พวกเขาประมาณ 20-30 คน ในขณะที่ผมและภรรยา 2 คนเท่านั้น หลังจากทำให้ถนนเลอะเทอะเปรอะเปรื้อนไปหมด พวกเขาก็เดินจากไป ผมได้เอาโทรศัพท์มือถือออกมาขู่เขา ให้เขาคิดว่าผมจะโทร.หาตำรวจ หลังจากนั้นเราก็ได้เก็บเศษขยะบนพื้น และเก็บสิ่งของที่ยังใช้ได้ (ผู้ปกครองบางคนก็กรุณาเข้ามาช่วยด้วย) พวกเราก็กำลังจะออกจากพื้นที่นี้ แต่ฝูงชนเหล่านี้ได้ปิดกลั้นทางออกโดยการ เกี่ยวแขนกันเป็นโซ่มนุษย์ แล้วเราก็ได้ขับรถไปหาพวกเขา พวกเขาใช้หินทุบรถของเรา ทำให้เกิดรอยขูดขีดที่สีรถของเราหลายแห่ง

มีผู้สื่อข่าวของสถานีวิทยุร่วมดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ด้วย ในขณะที่เธอเดินเข้ามาหาเราตั้งแต่แรก ผมก็บอกได้เลยว่าเธอเป็นคนละพวกกับเรา ดังนั้นเพื่อที่จะดำเนินการตามแผนที่เราได้วางไว้ล่วงหน้า เราไม่ให้สัมภาษณ์ในท่ามกลางฝูงชนที่มีเจตนาไม่ดี และนักข่าวที่มีอคติกับเรา เราไม่ให้เธอสัมภาษณ์ทำให้เธอผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ถูกพวกนั้นทำลายข้าวของ, ผู้สื่อข่าวสาวคนนี้ก็ขอให้ภรรยาผมแสดงความคิดเห็นต่อสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วภรรยาผมก็ตอบเธอไปอย่างสั้น ๆ ว่า “สิ่งที่เลวร้ายกว่านี้ อาจเกิดขึ้นก็ได้”

คุณสามารถอ่านเกี่ยวกับการโจมตีทำร้าย โดยพวกล็อบบี้รักร่วมเพศในสวีเดนต่อผู้คนที่ พวกเขามีความคิดที่แตกต่างไม่เห็นด้วยกับการกระทำของพวกเขาได้ ภายใต้หัวข้อเรื่องที่ถูกปกปิดเรื่องที่ 2 ข้อที่ 7 เรื่องที่น่าเศร้าตัวจริงทั้งหมดนี้ มิใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเราและรถของเรา สิ่งที่น่าเศร้าที่จริงเป็นพฤติกรรมที่เต็มไปด้วย สิ่งชั่วร้ายที่คล้ายคลึงเลียนแบบกัน ซึ่งปัจจุบันได้แพร่หลายยอมรับกันทั่วไปในประเทศสวีเดน

เราได้ลงโฆษณาอย่างต่อเนื่องกันในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นชื่อ Vasterbottens - kuriren ถึง 4 วัน ตั้งแต่วันพุธถึงวันเสาร์ หนึ่งสัปดาห์ก่อนที่พวกเราจะมาถึง ในวันพฤหัสบดีผมได้รับโทรศัพท์จากหนังสือพิมพ์ ซึ่งเขาประกาศว่าเขาจะถอดถอนการโฆษณาของพวกเรา 2 วันที่เหลืออยู่ ผมได้ถามเขาว่าเขาถูกใครกดดันหรือเปล่า คำตอบของเขาก็คือการยืนยันว่าใช่ เมื่อวานนี้ตอนเย็นเมื่อตอนที่อยู่ข้างนอกร้าน McDonalds ผมได้รู้ว่าทำไมหนังสือพิมพ์จึงไม่กล้าลงโฆษณาให้เราต่อไป มันเป็นการง่ายเหลือเกินโดยที่ ไม่ต้องเสียเหงื่อสักหยดสำหรับพวกล็อบบี้ของพวกชายรักร่วมเพศที่จะ ทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงกับหนังสือพิมพ์เล็ก ๆ อย่างนี้ ด้วยกรรมวิธีนี้เสรีภาพในด้านการแสดงความคิดเห็นในประเทศสวีเดนได้ประสบความหายนะอีกแล้ว

มีบางคนที่แนะนำว่า เราควรที่จะแจ้งตำรวจเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เป็นการยากที่จะ แจ้งความกับคนที่คุณรักและเห็นอกเห็นใจสงสาร พวกที่เป็นล็อบบี้ชายรักร่วมเพศนั้นไม่ใช่ศัตรูของเรา เรามีความรู้สึกที่ดีต่อพวกเขาเหมือนมนุษย์ทั่วไป แต่ในขณะเดียวกันมันก็สำคัญเท่า ๆ กัน ที่เราต้องบอกให้ผู้ปกครองทราบเกี่ยวกับทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาทำ ซึ่งมีผลกระทบกับการเบี่ยงเบนทางเพศในอนาคตของบุตร - หลานของเรา

วันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม ค.ศ. 2006 - ไม่ยอมให้สัมภาษณ์

เรียน เพื่อน ๆ ทุกคน,

มันเป็นวันเสาร์ เวลาค่ำคืนแล้ว (เวลาในประเทศสวีเดน)

ผมได้พูดคุยกับภรรยาผมทางโทรศัพท์และเธอเสนอแนะว่า ผมควรที่จะส่งความปรารถนาดีถึงคุณจากสวีเดน และผมคิดว่ามันน่าจะเป็นระเบียบ เพราะนี่คือจุดสูงสุดของการตระเวนทัวร์รอบสวีเดนของเรา ตอนนี้ผมอยู่ที่เมือง Haparanda มันอยู่จุดที่เหนือที่สุดของประเทศสวีเดนที่คุณสามารถมาได้

ในตอนภาคเหนือของสวีเดนนี้ประชากรส่วนใหญ่อยู่อาศัยที่นี่ และกิจกรรมทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นตามริมฝั่งทะเล Baltic ที่เป็นริมฝั่งทะเลตอนตะวันออกของประเทศ Haparanda นั้นเป็นเมืองที่อยู่ทางเหนือสุดของประเทศที่ติดกับประเทศ Finland ถึงแม้ว่าชายแดนจะต่อเนื่องเข้าไปในแผ่นดิน ที่อยู่เหนือขึ้นไปอีกหน่อยจากที่นี่ ไกลออกไปทางเหนือจากนี้ พระอาทิตย์ไม่เคยตกในตอนสายของเดือนมิถุนายน และช่วงต้นของเดือนกรกฎาคม แต่เวลาในขณะนี้พระอาทิตย์ตกตอนกลางคืนและมืดลงแต่มืดไม่มาก ดังนั้นอีกไม่กี่เดือนข้างหน้ากลางคืนจะยาวกว่ากลางวัน กลางวันจะสั้นมาก

เมื่อตอนที่ผมยังเป็นเด็ก เรามีดาราที่เราโปรดปรานชื่อ “Stalfarfar” (แปลว่า คุณปู่ที่ทำด้วยเหล็กกล้า) ซึ่งกลายเป็นคนมีชื่อเสียง โดยการขี่จักรยานจากเมือง Haparanda ในตอนเหนือสูงสุดไปยังเมือง Ystad ที่อยู่ไปทางใต้สุด ผมก็ขี่จักรยานในเมือง Haparanda เหมือนกันในวันนี้และอีก 3 สัปดาห์ต่อจากนี้ไป ผมก็จะไปขี่จักรยานที่เมือง Ystad แต่การขี่จักรยานของผมจะ ไม่ได้รับคุณสมบัติในการพากเพียร และความแข็งแกร่ง ผมได้นำจักรยานใส่ไว้ในรถตู้ขนาดใหญ่ที่เรา เอาเบาะตอนกลางออกไป การขี่จักรยานของผมในวันนี้จะทำให้ผู้ดูแลกายภาพบำบัดของผมมีความสุข เพราะว่าผมได้ยืดเส้นยืดสาย และต้องอดทนต่อการเจ็บปวดหัวเข่าของผมเล็กน้อย ผมได้ขับรถไปจนถึงชายแดนของประเทศฟินแลนด์ (Finland) แต่ไม่เคยได้สังเกตุเห็นทางผ่านแดนที่ชายแดน ผมก็ไม่มีทางเลือกแล้วก็ขับไปเรื่อย ๆ เมื่อตอนที่ผมขับไปถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง ผมได้พยายามหาเจ้าหน้าที่เพื่อที่จะ บอกเขาว่าผมได้มาที่นี่โดยบังเอิญ และต้องการที่จะขับกลับไปที่เดิม แต่ผมก็ไม่พบกับใครเลย มันเป็นเวลาใกล้ค่ำของวันเสาร์ บนถนนที่ไม่มีคนไม่มีรถ ดูเหมือนว่าทุก ๆ คน กลับบ้านไปหมดแล้ว ผมไม่มีทางเลือกที่จะขับรถกลับไปที่เดิม และต้องขับต่อไปเข้าไปในประเทศ Finland ผมได้พบว่า ผมอาจจะตกอยู่ในความเดือดร้อน เพราะผมได้ลืมหนังสือเดินทางไว้ที่โรงแรม แต่หลังจากที่ผมได้เลี้ยวรถกลับ ก็ไม่มีใครอยู่บนถนนเช่นกัน ทำไมช่างแตกต่างกันเช่นนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับบางประเทศที่ผมเคยไปเที่ยวมา เช่น พรมแดนระหว่างประเทศอิสราเอล และอียิปต์, อิสราเอล - จอร์แดน และประเทศกรีซ - ตุรกี เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว

ตอนนี้เรากลับมาพูดถึงเหตุผลของการตระเวนทัวร์ของเราดีกว่า มันเป็นไปด้วยดี เมื่อคืนนี้ผมค้างคืนที่เมือง Pitea ผมได้ขับรถผ่านไปรอบ ๆ เมือง ผมได้ผ่านตึกที่มีป้ายขนาดใหญ่ที่เขียนว่า “RFSL Nord” (แปลว่า เป็นศูนย์กลาง “ทางภาคเหนือ” ของ RFSL ซึ่งเป็นล็อบบี้ของพวกชายรักร่วมเพศในสวีเดนที่ได้รับเงินสนับสนุนทางการเงินอย่างมากมายจากรัฐบาล แล้วผมก็ได้เปิดห้องที่โรงแรมชื่อ “City Hotel” ในเมือง Pitea เมื่อคืนนี้ผมได้พบกับชายหนุ่มมากมายในวัยประมาณ 20 - 30 ปี แต่ไม่พบผู้หญิงที่มีอายุเดียวกันในที่นั้น ผมก็ได้เจอเด็กชาย 3 คน อายุประมาณไม่เกิน 15 ปี พวกเขามาโดยปราศจากผู้ปกครอง หลังจากเราออกจากโรงแรมในตอนเช้าวันนี้ ผมได้ขับรถไปที่ปั๊มน้ำมัน ที่ซึ่งเราได้ประกาศล่วงหน้าไว้แล้วในเว็บไซต์ของเราว่าเราจะแจก DVD และข้อมูลข่าวสารอื่น ๆ และจะยอมให้ผู้ปกครองตามคำถามที่ข้องใจได้ ผู้ปกครองนั้นเป็นกลุ่มคนเป้าหมายของเรา ไม่ใช่พวกชายหรือหญิงรักร่วมเพศ นี่เป็นสิ่งที่เรากระทำเป็นปกติ: เราได้ไปที่เราได้แจ้งล่วงหน้าไว้แล้ว เป็นปั๊มน้ำมัน หรือที่เราจะไปกินข้าวเพื่อที่จะ ไปเติมน้ำมันให้เต็มถังและเติมอาหารใส่ท้องของเราในเวลาที่เรากำหนดไว้ พวกเราไม่แจกสิ่งของใด ๆ ในที่นั้น เพราะว่าเคยเกิดขึ้นแล้วครั้งหนึ่งที่ เจ้าของสถานที่เกิดการไม่พอใจ ฉุนเฉียว เพราะว่าการทำให้เพื่อนเราเกิดการรำคาญนั้น เป็นสิ่งสุดท้ายที่เราต้องการที่จะทำ เราก็ได้ออกจากปั๊มน้ำมัน และตรงไปที่เป็นสถานที่สาธารณะใกล้ ๆ กัน เพื่อที่จะได้พบกับใครก็ได้ ที่อาจจะตามเรามาเพื่อที่จะรับแจก DVD หรือสิ่งของอื่น ๆ (รถของเรามีอักษรโตใหญ่ที่เห็นได้ชัดเจนเขียนไว้ว่า www.amoso.org อยู่รอบ ๆ รถ)

สิ่งที่เกิดขึ้นกับเราวันนี้ในเมือง Pitea นั้นเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ เพราะว่า RFSL มีศูนย์กลางปฏิบัติการอยู่ที่นั่น ที่นั่นเอง มีกลุ่มคนที่ไม่ชอบผมกำลังเฝ้ารอผมอยู่ แต่พวกเขาถูกเจ้าของสถานที่สั่งห้ามเข้า แล้วผมก็ได้เติมน้ำมัน จากนั้นผมก็ขับรถไปที่ใกล้ ๆ แถว ๆ นั้น ตอนแรกเลยมีสตรีผู้ใจกล้าผู้หนึ่งเข้ามาหาผม และเธอก็ดีใจมากที่เธอได้สิ่งพิมพ์และใบปลิวที่ เธอเคยเข้าไปอ่านแล้วในเว็บไซต์ เธอขอเพิ่มอีกเพื่อจะ เอาไปให้เพื่อนเธอ จากนั้นมีผู้สื่อข่าวพร้อมด้วยช่างภาพ เข้ามาหาผม เขาต้องการที่จะขอสัมภาษณ์ผม ผมได้เคยให้สัมภาษณ์ไปแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อคืนที่ผ่านมาในเมือง Skelleftea ซึ่งเป็นการให้สัมภาษณ์ครั้งแรก มีชายหนุ่มและหญิงสาวซึ่งดูดีมากมีมารยาทสุภาพ เมื่อเห็นครั้งแรก ดังนั้นผมคิดว่าผมจะให้สัมภาษณ์ ถึงแม้ว่าผมได้พยายามบอกตัวเองและภรรยาว่าผมจะ ไม่ยอมให้สัมภาษณ์ในการท่องเที่ยวครั้งนี้ หลังจากนั้นผมก็เสียใจที่ผมไม่ได้ทำตามแผนที่กำหนดไว้ หญิงสาวบอกกับผมทันทีว่าเธอเป็นพวกเลสเบี้ยน (Lesbian) และผมก็พูดไม่ออก (เธอมีอายุเท่ากับลูกสาวคนเล็กของผม) ดังนั้น เธอถามผมว่า ถ้าหากเธอจะขอเลี้ยงบุตรบุญธรรม, แล้วลูกบุญธรรมจะกลายเป็นเลสเบี้ยนหรือ ? เธอเป็นคนที่โต้เถียงเก่งมาก และดูเหมือนว่าเธอและชายหนุ่มจะไม่รู้อะไรเลย เกี่ยวกับข้อความในเว็บไซต์ของผม และพวกเขาก็ไม่ต้องการที่จะฟังผมพูด นี่เป็นสิ่งที่ผมไม่ต้องการอย่างที่สุด นี่ไม่ใช่เป็นสิ่งที่เว็บไซต์ของเรา และทัวร์ครั้งนี้ต้องการที่จะเป็น กลุ่มเป้าหมายหลักของเรา คือท่านผู้ปกครอง; ไม่ใช่คนที่เป็นคนรักร่วมเพศ และผมก็รู้ว่าเขาทั้งสองจะ ต้องเขียนลงในหนังสือพิมพ์ ที่เป็นอคติและโน้มเอียงเกี่ยวกับผม

ดังนั้น วันนี้เวลา 13.00 น. ในที่ชุมนุม ผมตอบปฏิเสธต่อการสัมภาษณ์อย่างสุภาพ ผมบอกเขาว่าในประเทศอเมริกา เรามีคำสุภาษิตว่า “ถ้าหลอกคุณครั้งหนึ่ง พวกเขาน่าละอายใจ ถ้าหลอกคุณ 2 ครั้ง - คุณนั่นแหละ น่าจะละอายใจ” ! ดังนั้นผมไม่ให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ ผมบอกได้เลยว่าผู้ชายคนนั้นเขาดูว่า เขาผิดหวัง และช่างภาพถ่ายรูปผม ไม่ต่ำกว่า 40 ครั้ง ในระหว่างการพบปะสั้น ๆ นี้ ดังนั้น ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ผมกลับมายังแผนการเดิม ที่ผมได้กำหนดไว้ ผมได้รับอีเมลล์จากคน 6 คน ที่แสดงความจำนงอยากจะ ขอสัมภาษณ์จากหนังสือพิมพ์และสถานีวิทยุท้องถิ่นที่ติดต่อเข้ามาผ่านทาง “ติดต่อ” ทางเว็บไซต์ของผม ผมได้ตอบไปว่า ผมไม่ให้สัมภาษณ์อย่างสุภาพ ตอนที่ผมมีเวลาว่าง ผมเชื่อว่าเหตุผลหลัก ที่กลุ่มชาวเกย์เกลียดผม เพราะว่าน่าจะเป็นข้อความที่ ผมเขียนบนเว็บไซต์เกี่ยวกับ เรื่องที่ถูกปกปิดเรื่องที่ 1 (Myth No1) ที่ว่าไว้ว่า “วิถีการดำเนินชีวิตทั้งสองอย่างนั้น เป็นสิ่งที่น่าพึงปรารถนา ที่เท่าเทียมกัน” สิ่งที่ต้องพูดคือ เน้นถึงความแตกต่างอย่างมาก ระหว่างสองวิถีการดำเนินชีวิต เราใช้ข้อความจากเว็บไซต์จาก RFSL ซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งที่ชั่วช้าเลวทราม เพื่อที่จะรู้เรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่ผมอธิบาย (แม้กระทั่งคุณไม่พูดภาษาสวีเดน) ให้เข้าไปในเว็บไซต์ www.amoso.org และหมุนลงไปประมาณ 7 หน้า (ภายใต้เรื่องที่ถูกปกปิดเรื่องที่ 1 ข้อที่ 2 ข้างล่าง) และให้ไปที่ลิงค์ชื่อ ref.4 ถ้าคุณคลิกไปที่อ้างอิงนี้แล้วคุณก็จะเข้าไปถึงเว็บไซต์ของ RFSL (ซึ่งเป็นองค์กรที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากรัฐบาล) แนะนำผู้คนใช้ยาเสพติดที่ผิดกฎหมาย หลังจากนั้นอีก 2 - 3 บรรทัดต่อมาให้คุณคลิกไปที่ ref. 5 ที่พรรณนาถึงข่าวสารข้อมูลในเว็บไซต์ของพวกเขาที่ เต็มไปด้วยโลกีย์ต่ำช้า ผมแน่ใจว่าสิ่งนี้ทำให้ RFSL ลังเลใจ ในด้านหนึ่งพวกเขาต้องการที่จะ ทำร้ายผมที่ผมตีแผ่ข้อมูลที่ทำให้ เขารำคาญไม่พอใจ แต่อีกด้านหนึ่งพวกเขาไม่ต้องการที่จะ ทำให้เป็นข่าวใหญ่โต

เมื่อวันก่อนผมได้มีการสนทนาที่น่าสนใจกับ สมาชิกของบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ฉบับใหญ่ ชื่อ Vasterbottens Kuriren ในเมือง Umea ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือของสวีเดน เช้าวันนั้นผมได้รับโทรศัพท์จากผู้สื่อข่าว ซึ่งบอกผมว่าหัวหน้าบรรณาธิการตัดสินใจที่จะ ยกเลิกการโฆษณาของผม หลังจากที่ได้โฆษณามาแล้ว เป็นวันที่ 2 ซึ่งมีกำหนดโฆษณาไว้ 4 วัน ผมถามเขาว่า เขาถูกแรงกดดันจากกลุ่มคนภายนอกใช่ไหม และเขาก็ยอมรับว่าใช่ แต่ต่อมาในวันนั้น เขาโทรศัพท์เข้ามาในโทรศัพท์มือถือของผม และเราก็ได้พูดคุยกันประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วเขาก็โทร.มาอีกเป็นครั้งที่สอง และต้องการที่จะรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมด ไม่ได้คุยกันมากเกี่ยวกับตัวผมซึ่งผมชอบมาก ปรากฏว่าเขาเป็นรองประธานบอร์ดและเขาก็ไม่สามารถติดต่อกับประธานบอร์ดได้เพื่อทีจะ ถามว่าเหตุใดโฆษณาของผมจึงถูกยกเลิก ฟังเสียงเขาแล้ว เขาค่อนข้างจะแปลกใจว่า ทำไมหนังสือพิมพ์งดลงโฆษณาให้ผม เขาพูดว่าเขาต้องการที่จะพบกับผม และผมก็ได้อาสาที่จะไปพบเขาที่ สำนักงานหนังสือพิมพ์ของเขา เพื่อที่จะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราว และประเด็นทั้งหมดกับคณะกรรมการบรรณาธิการ ถ้าเขาปรารถนาอย่างนั้น แต่ผมจะไม่ให้สัมภาษณ์กับพวกนักข่าว เราจะคอยดูว่าผลจะออกมาอย่างไร เขาก็สนใจว่าอะไรที่กระตุ้นหรือเป็นแรงผลักดันให้ผมทำงานนี้ ผมบอกกับเขาว่า ผมและภรรยาเป็นห่วงอนาคตของชนรุ่นหลังในสวีเดน มีคนจำนวนระหว่าง 1,000-2,000 ที่เป็นเด็กชายในสวีเดนที่ยอมรับการมีวิถีการดำเนินชีวิตแบบชายรักร่วมเพศ แต่ละปีและก็ต้องทนทุกข์ทรมานกับสิ่งที่พวกเขาเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย พวกเราประเมินค่าที่จะทำให้เกิดความเป็นธรรมในเรื่องที่น่าเศร้านี้แล้ว ชีวิตของเราจะไม่สูญเปล่า เรารู้สึกว่าเราเป็นซี่ล้อของล้อรถใหญ่มาก และเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ใหญ่กว่าตัวคุณนั้นและถ้าคุณทำประโยชน์อะไรได้ให้กับเพื่อนมนุษย์นั้นเป็นสิ่งที่น่าบันดาลใจอย่างยิ่ง

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรในชีวิต ที่เราเข้าไปเกี่ยวข้องกับความจริงแล้ว มันไม่สามารถที่จะถูกระงับหยุดยั้งได้ตลอดกาล ท้ายที่สุดความจริงก็ต้องปรากฏออกมา บางครั้งมันเกิดขึ้นอย่างกะทันหันและเร็วมาก เหมือนในนิทานเรื่องสั้นเรื่อง เสื้อผ้าชุดใหม่ของจักรพรรดิ์” เขียนโดยนักเขียนนิทานชาวเดนมาร์ก ชื่อ Mr. H.C. Andersson เรื่องเกี่ยวกับมีเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ร้องตะโกนว่า “พระจักรพรรดิไม่ได้ใส่เสื้อผ้า” ทันใดนั้น ทุก ๆ คนก็ได้เห็นว่าพระจักรพรรดิ์ไม่ได้สวมเสื้อผ้าจริง ๆ แต่การโกหกคำโตของพวก RFSL ที่ว่าต้นเหตุของการเป็นคนรักร่วมเพศนั้น สืบมาจากสายเลือดและเผ่าพันธ์ุที่เราต้องใช้การพิสูจน์ และหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เข้าไปหักล้าง แล้วทัศนคติและความคิดเห็นของชนรุ่นหลัง ในประเทศนี้จะค่อย ๆ เปลี่ยนไปในทางที่ดี

ภาพรวมทั้งหมดเป็นอย่างนี้: ในปี ค.ศ. 1960 และก่อนหน้านี้ผู้คนไม่ได้พูดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องการรักร่วมเพศ (โอ้โห เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงไปแล้ว) ในตอนนั้นหมอทางด้านจิตวิทยา และนักจิตแพทย์รู้ดีว่าต้นเหตุทั่วไปของชายรักร่วมเพศก็ คือการขาดความสัมพันธ์กับผู้เป็นพ่อของเขา Mr. Bieber (คนผู้ซึ่งผมได้อ้างอิงถึงในเรื่องที่ถูกปกปิดเรื่องที่ 2) ไม่ใช่บุคคลแรกที่รู้ความจริงนี้ แต่ต่อมาเริ่มตั้งแต่มีการเริ่มปฏิวัติทางเรื่องเพศศึกษาในอเมริกาในช่วงประมาณ ค.ศ. 1970 ตอนที่พวกเกย์ได้ควบคุมองค์การ APA ทั้ง 2 แห่ง และนั่นมีการรุกคืบอย่างใหญ่โตมโหฬารที่จะ ค้นหาพันธุกรรมของรักร่วมเพศ โดยการพิสูจน์ออกมาว่า ถ้ารักร่วมเพศเกิดขึ้นมาจากการสืบสายเลือดแล้วพวกเกย์ก็จะ ได้รับการยอมรับทั่วไปในโลก คุณทดลองเดาดูซิว่าอะไร ? พันธุกรรมของการรักร่วมเพศ ไม่เคยได้ถูกค้นพบเลย และไม่เพียงเท่านั้น มันตรงกันข้ามที่ว่าการค้นคว้าในรอบ 40 ปีที่ผ่านมา แสดงออกมาว่าเราจะ ไม่สามารถค้นพบพันธุกรรมของการรักร่วมเพศ ผลลัพธ์ของการค้นคว้าวิจัย ก็คือมันเป็นไปไม่ได้ที่จะมาจากกรรมพันธ์ุ กุญแจที่จะเข้าใจความจริงนี้ คือ การศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับเด็กฝาแฝด อันนี้เป็นกุญแจสำคัญ !! การค้นคว้าอย่างตรงไปตรงมาของ Bailey-Dunne-Martin และ Bearman-Bruckner แสดงค่าของ PC แค่ 11% และ 7% เท่านั้น เราเอาแค่ 9% เป็นผลเฉลี่ย มันก็หมายความว่าสำหรับฝาแฝดแต่ละคู่ (ที่เราเรียกว่า Monozygotic) มันเป็นไปได้เพียง 9% ที่เด็กฝาแฝดจะกลายเป็นรักร่วมเพศ (จากสถิติที่ได้ทำไว้) ถ้าเกิดว่ามีพันธุกรรมของการรักร่วมเพศจริง ตัวเลขต้องเป็น 100% ตามทฤษฎี และควรที่จะต่ำลงอีกนิดหน่อยตามความเป็นจริง เพราะจะมีอัตราความผิดพลาด ในการคำนวณ 9% นี้แน่นอนว่าสูงกว่า 2-4% ของผู้ชายทั้งหมดที่กลายเป็นเกย์ แต่ให้พิจารณาว่าถ้าได้รับการอบรมที่คล้ายคลึงกันจากบิดาคนเดียวกัน แล้วตัวเลขจะต้องสูงกว่า 2-4% ตามความคาดหมาย ควรสังเกตว่า 9% ไม่ใช่หมายความว่าชายคนหนึ่งที่มีลูกฝาแฝดแล้วจะมีอัตรา 9% เป็นไปได้ที่จะกลายเป็นชายรักร่วมเพศ ตัวเลขนั้นแน่นอนว่ายังคงอยู่ใน 2-4% ของประชากรทั่วไป

ถึงตอนนี้แล้วคุณน่าจะเหนื่อยเท่า ๆ กับผม

ราตรีสวัสดิ์